การหาตลาดเพื่อการส่งออกโดยผู้ส่งสินค้าออก (Exporter) เอง มีดังนี้
1. Importers/Distributors เป็นการติดต่อกันระหว่างผู้ส่งสินค้าออกกับผู้นำเข้าหรือผู้กระจายสินค้า โดยตรง เป็นวิธีการดำเนินธุรกิจส่งออกที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ผู้ผลิตหรือผู้ส่งออกจะสามารถควบคุมกระบวนการส่งออก และการตลาดได้อย่างดี มีโอกาสได้ผลตอบแทนที่สูงกว่าวิธีการส่งออกทางอ้อม นอกจากนี้ ยังเกิดการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับผู้ซื้อและตลาดเป้าหมาย แต่การส่งออกทางตรงนี้ผู้ส่งออกต้องทุ่มเทเวลา บุคลากร และทรัพยากรต่างๆ ในการดำเนินการอย่างจริงจัง ต้องมีการจัดองค์กรเพื่อรองรับธุรกิจส่งออกที่มีความสลับซับซ้อนมากขึ้นอย่างเป็นระบบตามมาตรฐานสากล
2. Overseas Selling Offices เป็นพัฒนาการของการทำธุรกิจระหว่างประเทศ ขั้นต่อมาจากการส่งออก ก็คือการทำการตลาดในตลาดเป้าหมายเอง วิธีที่ดีวิธีหนึ่ง คือ การเข้าไปตั้งสำนักงานขายในประเทศนั้นๆ เพื่อบริษัทจะสามารถรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับตลาดและวางแผนการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับกลุ่มลูกค้าและผู้บริโภคด้วย
3. Overseas Investments/Joint Ventures ขั้นตอนต่อไปของการทำธุรกิจระหว่างประเทศ จะมีการศึกษาโอกาสทางการค้า และการลงทุนในตลาดเป้าหมายอย่างดี เพื่อการลงทุนหรือร่วมลงทุนตั้งฐานการผลิตในประเทศเป้าหมาย ลดต้นทุนของการส่งออก และใช้ประโยชน์ของปัจจัยต่างๆ ที่มีในประเทศนั้นๆ เช่น ค่าแรงที่ต่ำกว่า วัตถุดิบที่มีราคาถูกและปริมาณมาก โอกาสในการขยายตลาดไปยังประเทศอื่น โดยใช้ประเทศดังกล่าวเป็นฐานการผลิตและกระจายสินค้าต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น